เป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมนี้ทั้งหมดด้วยการผลิตแบบเติมแต่ง

ความท้าทาย

เช่นเดียวกับช่างเทคนิคทันตกรรมทุกคน Hindrik Dehnbostel เจ้าของ CADSPEED มี "ปัญหาด้านพื้นที่" เนื่องจากมุมและขอบสามารถสร้างได้ยากด้วยเครื่องกัด โดยที่ฟันจะเล็กเกินไป แต่กลับมีความต้องการที่สูงเกินไป นอกจากนี้เครื่องมือยังไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่และบางครั้งก็แตกออก ผลที่ตามมา: การทำงานแก้ไข กว่าอะไหล่ฟันจะมาถึงปากของคนไข้สามารถใช้เวลานานหลายสัปดาห์

โซลูชัน&

ระบบการผลิตแบบเติมแต่งไม่รู้จักปัญหาเช่นนี้ เนื่องจากส่วนประกอบถูกสร้างทีละชั้นและซอฟต์แวร์ควบคุมกระบวนการ ทำให้แม้แต่โครงสร้างที่มีลวดลายก็เป็นไปได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การหลอมรวมโลหะด้วยเลเซอร์ (LMF) ยังประหยัดวัสดุอีกด้วย ด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมช่างเทคนิคทันตกรรมผลิตรูปแบบพื้นฐานเป็นอันดับแรก และกรอออกหลังจากนั้น วัสดุถึง 80 เปอร์เซ็นต์จะต้องทิ้งลงถังขยะ LMF ต้องใช้ผงจำนวนเท่าที่ส่วนประกอบต้องการเท่านั้น ข้อดีอื่นๆ: การพิมพ์ 3D เมื่อเปรียบเทียบเป็นชั่วโมงแล้วรวดเร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากแบบดั้งเดิมช่างเทคนิคทันตกรรมจำเป็นต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีต่อฟันหนึ่งซี่ ด้วยเทคโนโลยีแบบเติมแต่งทำให้เกิดหน่วยฟันถึง 70 ชุดต่อหนึ่งรอบการทำงานภายในสองถึงสามชั่วโมงบนแพลทฟอร์มหนึ่ง&

การทำให้เป็นจริง&

ปลายปี ค.ศ. 2017 CADSPEED ได้ติดตั้ง TruPrint 1000 ของ TRUMPF ด้วยหลักการเลเซอร์หลายชุดในการทำงานอย่างถาวร ลำแสงเลเซอร์สองชุดหลอมรูปทรงเรขาคณิตของอะไหล่ฟันพร้อมกัน วิธีนี้ลดระยะเวลากระบวนการของบริษัท Dehnbostel ได้ทดสอบเครื่องนานสามเดือนและซื้อเครื่องในที่สุด ตั้งแต่นั้นมาเครื่องทำงานห้าวันต่อสัปดาห์ในการทำงานแบบสามกะ "ระบบทำงานด้วยความเชื่อถือได้และทนทาน" ช่างเทคนิคทันตกรรมกล่าว

วิสัยทัศน์&

แม้ว่าเทคโนโลยีแบบเติมแต่งสำหรับเทคโนโลยีทันตกรรมมีข้อดีหลายประการ แต่การใช้งานในด้านนี้ก็เป็นไปอย่างช้าๆ เท่านั้นตามที่ Dehnbostel กล่าว "ห้องปฏิบัติการทันตกรรมหลายแห่งกลัวว่างานของพวกเขาจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยที่เทคโนโลยีใหม่จะเป็นการให้พรสำหรับอุตสาหกรรมนี้" บริษัทกล่าว ประธานของ CADSPEED มั่นใจว่าบริษัทไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพิมพ์ 3D ได้ในระยะยาว: "สักวันคนไข้จะดัดสินใจว่าฟันเทียมของเขาควรจะผลิตอย่างไร"