เชื่อมได้อย่างแม่นยำ ปรับให้เป็นระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่น นี่คือวิธีการทำงานของเทคโนโลยีทางการแพทย์แห่งอนาคต

ความท้าทาย

"ละเอียดอ่อน" คือคำที่อธิบายชิ้นส่วนสแตนแลสที่บอบบางสำหรับกล้องเอนโอสโคปของ Karl Storz ได้ดีที่สุด งานแบบแมนนวลอย่างเช่นการเชื่อมด้วยมือที่มีการขยายให้ขึ้นถึง 16 เท่าจึงเป็นงานประจำวันที่ต้องทำ เนื่องจากมนุษย์เท่านั้นที่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ และหลายๆ ปัจจัยก็ทำให้การผลิตแบบใช้เครื่องจักรหรือแม้แต่แบบแมนนวลทำได้ยากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังขาดแรงงานที่มีทักษะอยู่ Storz รับมือกับเรื่องนี้โดยการจัดการฝึกอบรมขึ้นมา แต่ก็ต้องการให้พนักงานมีคุณสมบัติสูงตามทักษะของพวกเขาเอง ไม่ใช่ใช้เพื่อโหลดและขนถ่ายเครื่องจักรไปวันๆ Wolfgang Karl เป็นผู้เชี่ยวชาญสำหรับกระบวนการเชื่อมด้วยเลเซอร์ ตัดด้วยเลเซอร์ และสร้างสัญลักษณ์ด้วยเลเซอร์ที่สำนักงานใหญ่ในเมืองทูตลีเงิน เขากล่าวว่า "เรายังมีงานที่ต้องทำด้วยตัวเองอีกมา แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะดูว่าส่วนไหนที่สามารถแปรรูปด้วยเครื่องจักรและทำงานอัตโนมัติได้อย่างเหมาะสม

โซลูชัน

Sarah Mühleck ผู้จัดการไซต์งานกำลังมองหาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสำหรับเชื่อมเลนส์ใกล้ตาที่ไซต์งานในเมืองวิดเมา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งโซลูชันดังกล่าวจะต้องปรับกระบวนการผลิตให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติ ในตอนแรกเราตัดสินใจเลือก TruLaser Station 7000 รุ่นใหม่ Mühleck มีความต้องการสูงและเน้นย้ำว่า "แนวรอยเชื่อมต้องแน่นสนิท เนื่องจากห้ามมีความชื้นใดๆ เล็ดลอดเข้าไปในกล้องเอนโสโคปได้" เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว ชิ้นส่วนสแตนเลสจึงต้องบางกว่าหนึ่งมิลลิเมตร รวมถึงมีความลึกในการเชื่อมและความกว้างของแนวรอยเชื่อมนั้นเล็กตามลำดับ ทีมโครงการของ Karl Storz เลือกTruFiber 500 ซึ่งเป็นเลเซอร์โซลิดสเตทแบบใช้ไฟเบอร์ซึ่งมีกำลัง 500 กิโลวัตต์เป็นแหล่งกำเนิดลำแสงเลเซอร์ ซึ่งก็ถือว่าแม่นยำเพียงพอใช้การเชื่อมชิ้นส่วนที่ละเอียดอ่อน โซลูชันระบบอัตโนมัติที่เหมาะสมที่ wbt automation มีคือเซลล์หุ่นยนต์แบบเคลื่อนที่ที่มาพร้อมกับระบบมือจับแบบยืดหยุ่นเข้าจับและออกได้อย่างรวดเร็ว

การทำให้เป็นจริง

การผสมผสานระหว่างระบบเชื่อมด้วยเลเซอร์ที่มีประสิทธิผลและเซลล์หุ่นยนต์ที่ยืดหยุ่นได้พิสูจน์ตัวเองแล้วในเวลาอันสั้น มือจับคู่บนหุ่นยนต์ Kuka จะนำชิ้นส่วนที่เชื่อมทั้งสองชิ้นออกพร้อมกัน และใส่ชิ้นส่วนที่ยังไม่ได้แปรรูปสองชิ้นเข้าไป เซลล์ติดตั้งระบบจัดเก็บแบบลิ้นชักที่มีลิ้นชักถึงสี่ช่อง ซึ่งในช่องสามารถเก็บชิ้นส่วนได้ถึง 960 ชิ้น "ในเวลาเดียวกันกับกระบวนการเชื่อม เราสามารถเปิดลิ้นชักอีกฝั่ง นำเลนส์ใกล้ตาที่เชื่อมเสร็จแล้วออกมา แล้วติดไว้ใกล้กับชิ้นต่อไปได้" Mühleck รายงาน "นั่นช่วยลดภาระงานให้เราพนักงานของเราและเราก็ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน TruLaser Station 7000 เพียงเครื่องเดียวก็สามารถลดเวลาในการผลิตต่อชื้นส่วนจากสิบวินาทีลงเหลือครึ่งวินาทีได้ นอกจากนี้ เรายังใช้พลังงานลดน้อยลงมากอีกด้วย"

วิสัยทัศน์

Sarah Mühleck และ Wolfgang Karl เห็นตรงกันว่าโครงการในวิดเมาจะแสดงให้เห็นว่าส่วนใดของเทคโนโลยีทางการแพทย์บ้างที่สามารถทำงานอัตโนมัติได้ "เรายังต้องทำงานด้วยมืออีกมากในอนาคต แต่เราจะปรับขั้นตอนการทำงานที่สำคัญๆ ให้ดำเนินการด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งเซลล์หุ่นยนต์ที่มีความยืดหยุ่นสามารถตอบโจทย์การทำงานทั้งสองแบบได้" Karl กล่าว wbt automation ช่วยให้ Karl ได้พบกับพันธมิตรที่เชื่อถือได้และยืดหยุ่นสำหรับโครงการในอนาคตบนเส้นทางสู่การเป็นบริษัทที่มีการทำงานอัตโนมัติมากขึ้น